๙๙๙มีดหมอ หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท 13 นิ้ว (ผิ้วหิ้งครับ) ๙๙๙

มีดหมอของหลวงพ่อกวย ท่านได้ไปศึกษาล่ำเรียนวิชาการทำมีดหมอมาจากปรมาจารย์เลยคือ ท่านหลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพ นครสวรรค์ เมื่อท่านได้กลับมาวัดโฆสิตาราม ซึ่งอยู่ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบไม่นาน ซึ่งบ้านเมืองตอนนั้นมีความอดอยาก โจรร้ายชุกชุม ชาวบ้านก็ต่างมาขอของดีจากหลวงพ่อเพื่อหวังจะได้อาศัยบารมีของหวงพ่อคุ้มครองป้องภัยต่าง นอกจากการสักยันต์ให้ลูกศิษย์แล้ว หลวงพ่อก็ยังไดทำวัตถุมงคลอย่างอื่นด้วย เช่นตะกรุด ผ้ายันต์ เครื่องรางต่าง ๆ อีกหลายชนิด ซึ่งรวมถึงมีดหมอด้วยครับ มีดหมอยุคแรก ได้มีการทำกันในวัดเลย เริ่มตั้งแต่ตีเหล็กให้เป็นใบมีด เหลาด้ามมีด ทำปอกมีด (เป็นขาปิ่นโต) หรือปิเนียมนั่นเอง ตีอัขระลงบนใบมีดและบรรจุวัตถุมงคลลงในด้ามมีด โดยมีผู้ช่วยหลวงพ่อคือพ่อเฒ่าอุ้ย และพระอาจารย์ทรง ส่วนการตอกอักขระลงบนใบมีดนั้นทำการตอกกันในวัดโดยมีทั้งพระและเณรช่วยกันตอก สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออักขระทีตอกลงบนใบมีดนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อกวยได้เลยครับ กล่าวคือด้านขวาของใบมีด(ถือให้คมมีดลงด้านล่าง)หลวงพ่อจะลงด้วยพระคาถา" มงกุฎพระพุทธเจ้า" ส่วนด้านซ้ายให้ถือเป็นจุดสังเกต คือจะมีรูปพญานาค 2 ตัวเกี้ยวพันกันและตรงกลางรูปพญานาคตามยาวจะมีการตอกคาถาบทหนึ่งซึ่งเป็นคาถาสำคัญของอาจารย์ท่าน " หลวงพ่อเฒ่า แห่งวัดค้างคาว" คาถามีอยู่ว่า " อะ ปะ จะ คะ คะ จะ ปะ อะ " แต่ถ้าเป็นของสำนักอื่นส่วนมากจะลงด้วยคาถา " พระเจ้า 16 พระองค์ " ลูกศิษย์ลูกหา ชาวบ้านทั้งไกลและใกล้ต่างเดินทางมาขอวัตถุมงคลของหลวงพ่อไม่ได้ขาด ซึ่งรวมถึงมีดหมอด้วย และด้วยที่หลวงพ่อท่านเป็นผู้ที่มีความเมตตาต่อสานุศิษย์อยู่แล้ว ท่านเลยทำมีดหมอขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีดหมอช่วงนี้เป็นมีดที่สังทำมาจาก อำเภอพยุหะคีรี นครสวรรค์ โดยทำแยกใบมีดและด้ามแล้วหลวงพ่อก็นำมาบรรจุวัตถุมงคลลงในด้ามมีดแล้วจึงบรรจุด้ามมีด มีดหมอยุคนี้สังเกตได้ว่าจะเป็นด้ามงาฝักไม้เสียส่วนใหญ่ ส่วนการตอกอักขระบนใบมีดก็ทำกันในวัดเหมือนเดิม และคาถาที่ตอกบนใบมีก็เป็นแบบเดิม แต่จะมีเพิ่มมาบ้างก็คือมีดที่ตอกมาจากโรงงานแล้วก็มีบ้าง แต่คาถาที่ตอกบนใบมีดจะเป็นคาถา " พระเจ้า 16 พระองค์ " คือ " นะ มะ นะ อะ นอ กอ นะ กะ กอ ออ นอ กะ นะ อะ กะ อัง " แทนคาถาของอาจารย์ท่าน และมีดหมอยุคนี้จะคลายกับมีดหมอของหลวงพ่อกันวัดเขาแก้วมาก เพราะฉะนั้นต้อง แยกจากยันต์เป็นหลัก หลวงพ่อกัน นะ มะ น